ทาวน์เฮาส์ในเมือง กำแพงสองชั้นช่วยซับเสียง ฝุ่น ควัน

ที่ว่างและแสง ปัจจัย 2 ประการนี้เป็นสิ่งที่นักออกแบบรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการสร้างบ้านมาก นอกเหนือจาก รูปร่าง หน้าตา และการจัดสรรพื้นที่ใช้สอย ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราจะได้เห็นอาคารที่อยู่ติด ๆ กัน ทำหน้าบ้านให้ปิดออกจากสายตาของคนภายนอก และอัดฟังก์ชั่นการใช้งานภายในให้เต็มพื้นที่จนไม่เหลือที่ว่าง ซึ่งพลอยทำให้บ้านดูทึมทึบน่าอึดอัด การเสียสละเนื้อที่ใช้งานเพิ่มพื้นที่โล่ง ๆ ในอาคารให้บ้านได้หายใจ และเติมช่องแสงเข้ามา นอกจากจะได้ประโยชน์ต่อความรู้สึกแล้ว ยังเพิ่มสุขอนามัยภายในบ้าน ช่วยให้ระบบไหลเวียนอากาศดีขึ้นด้วยครับ

<

คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขนาดใหญ่

ทาวน์เฮาส์หลังนี้ขนาด 82 ตร.ม สร้างอยู่บนถนนที่ค่อนข้างเงียบสงบบนเขตพื้นที่ชานเมืองของไซง่อน ที่นี่ก็เหมือนกับบ้านมากมายในเวียดนามที่พลุกพล่าน บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยฝุ่น ความร้อน เสียงรบกวน ฯลฯ เจ้าของบ้านจึงอยากจะสร้างปราการเป็นแนวกันชนระหว่างตัวบ้านกับพื้นที่สาธารณะรายล้อมบ้าน แต่ก็มีพื้นที่ว่างสบาย ๆ ภายในซึ่งเจ้าของบ้านให้ความสำคัญสูงสุด เป็นโจทย์การสร้างบ้านที่ต้องการความเป็นส่วนตัวที่ยังมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ สถาปนิกจึงทำตามความต้องการด้วยการสร้างบ้านแบบเปลือก 2 ชั้น (Double Skin) ด้านหน้าเป็นฟาซาดช่องลมให้หน้าบ้านโปร่ง เติมต้นไม้บริเวณช่องว่างระหว่างฟาซาดกับตัวบ้านช่วยซับฝุ่น ควัน และเสียง สร้างความเป็นส่วนตัว ส่วนภายในเปิดกว้างเต็มไปด้วยแสงและที่ว่าง

แบบจำลองบ้าน 3 ชั้น ที่คำนวณทิศทางลมและแสงที่จะเข้าสู่อาคารเอาไว้อย่างดี ทั้งส่วนหน้าและส่วนหลังบ้านมีผนังสองชั้น จัดพื้นที่สวนกั้นก่อนถึงตัวบ้าน

พื้นที่แบบเปิดสเปซโล่งแต่ “ปิดเป็นส่วนตัว” ดูเรียบง่าย เข้าถึงไม่ยาก ให้ความสำคัญกับแสงสว่างจากธรรมชาติและการระบายอากาศ ให้ลมหมุนเวียนได้ดี ลดการพึ่งพาพลังงานของเทียมเพื่อความประหยัด ยืมแสงและเงาที่พาดผ่านมาตกแต่งบ้านแบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ในบ้านจึงเย็นสบาย ร่มรื่น ไม่เก็บความร้อน ไร้เสียงรบกวน มีความปลอดภัย ให้ความเคารพในวัฒนธรรมการดำรงชีวิตของเจ้าของบ้าน

ครัวและพื้นที่ทานอาหารแบบเปิดผนังโล่ง เชื่อมบรรยากาศธรรมชาติอยู่รอบ ๆ ตัว เข้ามาเติมเต็มความสดชื่น เหมือนเป็นมุมทานอาหารกลางสวนหรู ๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่น ควัน และความชื้น

บริเวณกลางอาคารสร้างเป็นบันไดเปลือยเปิดโล่งทะลุขึ้นไปถึงชั้น 3 ทำให้บ้านมีพื้นที่ว่างออกสู่ท้องฟ้า ใช้จัดเป็นส่วนเล็ก ๆ บ้านจึงไม่อึดอัดและมีพื้นที่เว้นวรรคให้นั่ง เดิน สูดอากาศสบาย ๆ

การตกแต่งภายในเน้นใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เลือกวัสดุที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบบท้องถิ่น เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการสร้างและคงไว้ซึ่งความประทับใจในลักษณะเฉพาะตัวเวียดนามเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นงานไม้ งานจักสาน อิฐ หรือบล็อค

สวนเป็นจุดที่เชื่อมความสบายตามธรรมชาติเข้าสู่ทุกพื้นที่ในบ้าน เราจะได้เห็นการแบ่งสเปซสำหรับสวนในทุกชั้น ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะเห็นว่าเป็นการสูญเสียพื้นที่โดยเปล่าประโยชน์ แต่อันที่จริงแล้วทุก ๆ จุดที่มีสวนจะช่วยสร้างทัศนียภาพและบรรยากาศเอาท์ดอร์ ที่ให้ผลดีต่อความรู้สึก จิตใจ และสายตา

ห้องนั่งเล่นบรรยากาศเรียบง่ายรายล้อมด้วยผนังโชว์แนวการเรียงตัวของอิฐทาสีขาว เพดานคอนกรีตหล่อในที่เปลือยให้เห็นร่องรอยแม่แบบเท่ ๆ เปิดวิสัยทัศน์ให้เห็นสวนบนชั้นสองด้วยการติดหน้าต่างบานใหญ่ กรอบสีดำช่วยขับเส้นสายตาให้ชัดเจนขึ้น อีกด้านหนึ่งของห้องไม่มีผนังปิด เชื่อมพื้นที่ต่อไปยงอีกฟากหนึ่งของอาคารด้วยทางเดินเหมือนสะพานลอยตัวอยู่กลางบ้าน

แบ่งพื้นที่ในบ้านทำเป็นโฮมออฟฟิศ ตกแต่งด้วยงานไม้ ผนังติดอิฐช่องลม ช่วยกั้นแยกพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนแต่ยังสามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่อื่น ๆ ในบ้านได้

ช่องแสงจากอิฐช่องลมบริเวณฟาซาดหน้าบ้านและสกายไลท์บนเพดาน ช่วยนำแสงจากธรรมชาติเข้ามาเพิ่มความสว่างภายใน พร้อม ๆ กับสร้างมิติของแสงเงาให้บ้านดูมี Detail และลูกเล่นสนุก ๆ

แปลนบ้าน